BEOGAMING : ในโลกของการ์ตูน เหล่าฮีโร่มากหน้าหลายตา ต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยสวมชุดตามรูปแบบของตน
ไม่ว่าจะเป็น ฮีโร่สุดฮิตอย่างสไปเดอร์แมน ก็มีชุดพร้อมหน้ากากแมงมุม หรือ แบทแมนที่มาด้วยชุดคลุมสุดเท่สีดำ และ หน้ากากค้างคาวแสนคลากสิก และยังมีอีกมากมายที่ BEOGAMING ไม่ได้กล่าวถึง
.แต่เรื่องนี้ มันมาเกี่ยวกับฟุตบอลได้อย่างไรหล่ะ แน่นอนว่า เรื่องฟุตบอลก็มีแต่ชุดฟุตบอลเท่านั้น จะมีชุดอื่นมาแทรกได้อย่างไร แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น ที่นักฟุตบอลสวมลงสนามหล่ะก็ ไม่แน่เหมือนกัน แต่ไม่ได้ใส่เพื่อความเท่แต่อย่างใด ที่นักฟุตบอลจำเป็นต้องใส่นั้น เพราะป้องกันการได้รับบาดเจ็บเท่านั้นเอง
ยกตัวอย่างเช่น ปีเตอร์เช็กที่จำเป็น องสวมเฮดการ์ดตลอดเวลา เมื่อต้องลงทำการแข่งขัน เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อ ยอดนายทวารจากสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งช่วงนั้น ลงประจำการเฝ้าเสาให้ ยอดทีมอย่างสิงห์บลูห์ เชลซี แต่มาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก จากการเข้าปะทะของ สตีเฟ่น ฮันท์ นักเตะ เร้ดดิ้ง จนกะโหลกศีรษะร้าว ในปี 2006 อาการบาดเจ็บดังกล่าวทำให้ เช็ก ต้องพักรักษาตัวถึง 4 เดือน ก่อนจะกลับมาลงสนาม ได้ในเดือนมกราคม ปี 2007
และยังมีนักเตะอีกหนึ่งราย ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ ให้ผู้คนเล่าขาล ถึงแม้เจ้าตัวจะเลิกเล่นไปแล้วก็ตาม นักเตะระดับตำนานผู้นี้คือ เอ้ดการ์ ดาวิด ผู้บุกเบิกการสวมแว่นตาลงสนามเพียงเพราะ ดาวิดนั้น เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตา ที่ไม่สามารถโดนมลภาวะต่างๆได้
จึงต้องทำให้เขา จำเป็นต้องสวมแว่น ลงทำการแข่งขันในทุกๆนัด อาจะมองว่ามันเป็นแฟชั่นในโลกของฟุตบอลก็ได้ แต่อุปกรณ์ที่สวมใส่นี้ นักเตะหลายๆคน ที่มีปัญหากับส่วนของร่างกาย ที่บอบบางจำเป็นต้องป้องกันไว้ ไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้
แต่มีทีมๆหนึ่งที่คล้ายจะนัดกัน ใส่อุปกรณ์ป้องกันชนิดเดียวกันนี้ โดยได้ใส่เป็นจำนวนหลายรายเลยทีเดียว ซึ่งอุปการณ์ที่ว่านี้ ก็คือหน้ากาก ที่นักเตะจำเป็นใส่ไว้ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนบนใบหน้า ที่อาจจะมาจากอุติบัติเหตุ จากการซ้อม หรือ การปะทะระหว่างการแข่งขัน
ซึ่งสโมสรที่กล่าวมานั้นคือ สิงห์บลูห์ เชลซี ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก วันนี้ ทาง BEO68 ขอนำเสนอ 5 นักเตะในสโมสร เชลซีที่ เคยได้สัมผัสกับหน้ากากดำชิ้นนี้ โดยจะมีใครสวมใส่หน้ากากสุดเท่เหล่านี้ บ้างไปรับชมกันได้เลยครับ
รายแรก ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือยอดนายทวาร ที่มาพร้อมเฮดการ์ดนั้นเอง เขาคือ ปีเตอร์ เช็ก
หลังจากเข้าปะทะอย่างหนัก กับนักเตะของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทำให้จมูกของเขา ถูกกระแทกอย่างหนักจนเลือดไหลนอง
เมื่อทำการตรวจสอบก็พบว่า จมูกของเขานั้นหัก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2011 และ ทำให้เขาต้องใส่หน้ากากป้องกันจมูกเพิ่มเข้าไป นอกเหนือจากการใส่เฮดการ์ด
รายที่สองกับตำแหน่ง ฟูลแบ็ค อย่าง เปาโล แฟร์ไรร่า โดยนักเตะชาวโปรตุกีสรายนี้มีช่วงเวลาที่ไม่ดีเอาเสียเลย เมื่อฤดูกาล 2011 ที่เขาต้องตามประกบ พญาวานรอย่าง แกเร็ธ เบลที่ช่วงนั้น
ฟอร์มของเขาเรียกได้จัดจ้านยิ่งนัก และ เป็นดาวรุ่งที่มีความเร็วสูง วันที่โชคไม่เข้าข้าง เปาโล แฟร์ไรร่า ทำให้เขาปะทะเข้าอย่างจังกับพญาวานรรายนี้ ซึ่งต่อมาทำให้จมูกหัก และ ต้องสวมหน้ากากสีขาวอันงามสง่าลงสนาม
รายที่ 3 กับ มิดฟิลด์จอมอัจฉริยะสัญชาติสเปน นามว่า เชส ฟาเบรกัส ในเกมที่ “สิงห์บลูส์” เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ พบกับ “ช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ เชส ฟราเบรกัสห้องเครื่องคนสำคัญปะทะกับ ชาร์ลี อดัม
โดยโดนท่อนแขนฟาดไปที่ใบหน้าอย่างจัง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ อย่างรุนแรงที่จมูก และ ต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งต้องผ่าตัดกันยกใหญ่กว่าจะหายดี และ มิดฟิลด์เลือดกระทิงก็ต้องสวมหน้ากาก ลงทำการแข่งขันอีกราย
รายที่ 4 คือ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าสุดแกร่ง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเกมที่พบสเตอัว บูคาเรสต์ ศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่เอาชนะทีมดังจากโรมาเนีย มาได้ 3-1 จากการเข้าปะทะอย่างหนักระหว่างเขากับผู้เล่นฝั่งตรงข้าม ทำให้เลือดไหลนอง ออกจากจมูกทั้งสองข้างของเขา โดยสุดท้ายจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา และ สวมหน้ากากป้องกันในเวลาต่อมา
ฺรายสุดท้าย คือ ยอดกองหน้าอารมณ์เดือดอย่าง ดิเอโก้ คอสต้า ที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อม
โดยระหว่างที่ ยอดกองหน้าสเปน ขึ้นแย่งลูกโหม่งกับดาวรุ่ง ของทีมอย่าง ฟิกาโย โทโมรี แต่จังหวะนั้น ผิดพลาดอย่างรุนแรง แทนที่จะโหม่งโดนลูกฟุตบอล กลับกลายเป็นโดนบริเวณหลังศรีษะ ของดาวรุ่งรายนี้แทน ซึ่งหลังจากนั้นจมูกของนักเตะพันธ์แกร่งรายนี้ก็มีเลือดไหลนองออกมา และ เมื่อเกมการแข่งขันที่ต้องพบกับ นิวคาสเซิล ในฤดูกาล 2015/2016 คอสต้า ก็จำเป็นต้องสวมหน้ากากลงเล่นอีกหนึ่งคน
แหล่งข้อมูล : BEOGAMING
เรียบเรียงเนื้อหา : tierrafarmstore